Client Feedback - Q & A

ผู้หญิง ทำธุรกิจส่วนตัว อายุ 32 ปี หลังจากที่ฉีดวัคซีนโควิดเข็มสอง ประจำเดือนหายไป ไม่มาเลยหลายเดือน พอมาอบเอนไซม์ (เพียงแค่อบเท้า) วันรุ่งขึ้นประจำเดือนมา เธอดีใจมาก

มันอัศจรรย์ที่ทั้งจาม ทั้งน้ำมูกไหลเยิ้ม ทุกเช้ามานานเป็น 10 ปี อบเพียงครั้งเดียว วันรุ่งขึ้นตกใจมาก คือหายไปเลย เหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน หายไปนานเป็นเดือนจนแกนั่งรถเพื่อน เดินทางไกล แล้วแอร์ลงตรงๆที่ตัว คืนนั้น เช้ามาน้ำมูกกลับมาไหลเหมือนเดิม!

“การอบเอ็นไซม์ใช้พลังของจุลินทรีย์เข้าไปเพิ่มอุณหภูมิภายในร่างกาย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปด้วย ถึงแม้ว่าจะมีคนมากมายบอกว่าสามารถหายจากโรคได้ แต่ก็ยังไม่อาจพูดแบบนั้นได้อย่างเต็มที่นัก”

“หากตอนกลางคืนเปิดแอร์นอน อาจจะทำให้รู้สึกเพลียหรือรู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด หากมาอบเอ็นไซม์ หรือ นำถุงเอ็นไซม์ใส่ไว้ในแมส ก็จะทำให้วันถัดมาไม่เกิดอาการเหล่านั้น หรือเมื่อฝังตัวในเอ็นไซม์รำข้าว ภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะสูงขึ้น อันจะทำให้สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ซึ่งการรักษาอาการของโรคให้หายด้วยการอบเพียงสองหรือสามครั้งนี้ มันน่าทึ่งมากๆ การรักษาแบบธรรมชาติบำบัดที่ได้ประสิทธิภาพสูงนั้นอาจจะเป็นการอบเอ็นไซม์รำข้าวก็เป็นได้”

“ใช้แบบซองสำหรับใส่ในแมส ใส่ทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง อาการแพ้รอบๆ ดวงตาก็หายไปเลย! (เกิดจากPM2.5) เอาไปใช้กับผู้ป่วยในคลินิกอาจจะดีก็ได้!”

คุณคาโมะ ลูกค้าที่มาใช้บริการอบเอ็นไซม์ที่ Sala Bran กรุงเทพฯ วันละ 5 ครั้ง (อายุ 59 ปี) “ตอนวัยรุ่นคุณคาโมะตรวจสุขภาพและได้รับผลว่ามีไขมันในเลือดสูง ทั้งบรรพบุรุษ คุณทวด คุณปู่ และคุณพ่อของคุณคาโอะเองล้วนเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ คุณคาโมะจึงคิดว่าเธอเองก็คงจะเป็นแบบเดียวกัน ค่าไขมันของคุณคาโมะเฉลี่ยแล้วสูงถึง 3-4 เท่า ค่าความดันเลือด การทำงานของตับ ค่าคอเลสเตอรอลก็ผิดปกติ คุณหมอบอกกับเธอว่าจะต้องกินยาไปตลอดชีวิตและคุณคาโมะเองก็ไม่ได้ปรับวิธีการใช้ชีวิต ยังคงกินข้าวขัดสีขาว กินขนมตามปกติ และด้วยการแนะนำของคุณ O ที่เคยมาใช้บริการอบเอ็นไซม์รำข้าวของ Sala Bran มา 1 เดือน คุณคาโมะเลยมีโอกาสได้แวะมาที่นี่ครั้งแรกในวันที่ 27 มกราคม 2562 ระหว่างการอบเอ็นไซม์ครั้งแรกมีความกังวลเรื่องการเต้นของหัวใจคุณคาโมะเล็กน้อย แต่คุณคาโมะก็บอกว่ารู้สึกดีมากๆ เลย หลังจากนั้นเธอได้แวะเวียนมาใช้บริการสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เมื่อถึงปลายเดือนมีนาคมปีเดียวกันซึ่งจะครบรอบ 2 เดือนพอดี หลังจากนั้นเธอมีโอกาสกลับไปตรวจสุขภาพที่ประเทศญี่ปุ่นและพบว่าค่าไขมัน ลงมาอยู่ในระดับกลางแล้ว เธอตกใจและคิดว่า “เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรานะ” ทั้งความดันเลือดและการทำงานของตับก็ดีขึ้น (ตอนนั้นยังเป็นเบาหวานอยู่ แต่ไม่ได้กินยา) ผิวที่ปกติจะเจ็บมากหลังโกนหนวด ก็ลื่นขึ้น ผื่นแดงบนหนังศีรษะก็หายไป พออบเอ็นไซม์รำข้าว ก็ทำให้ลืมความหงุดหงิดจากการทำงานไปเลย ทำให้ทั้งกายและใจรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก หรือกล่าวได้ว่าเป็นการผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจในคราวเดียวกัน”

“หลังจากอบหลายๆ ครั้ง ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ค้นพบว่า “นี่หละ คือของจริง” เลยทำต่อไป จนกลายมาเป็นวันละ 5 ครั้ง”

“หลังจากอบบ่อเอ็นไซม์รำข้าว ตอนทาเซรั่มบำรุงผิว ฉันตกใจมากที่มันซึมเร็วขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ปกติไม่ได้ซึมเข้าผิวเร็วแบบนี้เลย ทาประมาณ 5-6 ครั้งก็ยังซึมเร็วทุกครั้ง”

“ปกติค่าความดันเลือดของฉันอยู่ใกล้ๆ 200 หลังจากที่ได้เข้าอบ 2 ครั้ง ก็ลดลงมาอยู่ที่ 130 โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาลดความดัน และก็เลิกกินยาเบาหวานมา 1 ปีแล้ว”

(ผู้ชายชาวญี่ปุ่นอายุ 70 ปีที่เจ็บหัวเข่า และทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงานมานานหลายปี)
“หลังจากที่อบเอ็นไซม์เพียงครั้งเดียว หัวเข่าเขาก็สามารถยืดตรงได้ ทำให้เวลาลงบันได ลงได้สะดวกขึ้น”

(คนไทยอายุ 55 ปีเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ร่างกายด้านขวาขยับไม่ได้ )
“จากก่อนหน้านี้ที่ไหล่ด้านขวาไม่มีความรู้สึก หลังจากได้มาอบเอ็นไซม์หนึ่งสัปดาห์ ไหล่ขวาก็เริ่มมีความรู้สึก และวันถัดมาก็สามารถยกมือขวาขึ้นได้ด้วยตัวเอง ถัดมาอีก 3 วัน สามารถใช้ไม้ค้ำเดินด้วยตัวเองได้ นักกายภาพบำบัดกำลังจะออกบัตรคนพิการให้ ซึ่งเขาได้ปฎิเสธและบอกว่าเขาไม่ใช่คนพิการ”

(ผู้ชายชาวญี่ปุ่นอายุ 45 ปี ตอนวัยรุ่นกระดูกหักหลายครั้งจาการเล่นสโนว์บอร์ด)
“ขาทั้งสองของเขาบวมมาหลายปี หลังจากอบเอ็นไซม์เพียงครั้งเดียว อาการบวมก็หายไป และกลับมาใช้ขาทั้งสองข้างได้ภายในครึ่งปี”

“เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน เวลาที่โดนน้ำก็จะมีตุ่มเหมือนอีสุกอีใสขึ้นที่ฝ่ามือ เวลาอาบน้ำจึงต้องระวังไม่ให้โดนน้ำตลอด หลังจากที่อบเอ็นไซม์ก็อาการดีขึ้น และได้เอาซองเอ็นไซม์รำข้าวกลับบ้านไปประคบไว้ที่ฝ่ามือตอนนอนด้วย หลังจากนั้น 4 วันตุ่มก็หายไป ตอนช่วงสิ้นปี ดื่มกินเยอะมาก หลังจากนั้น 2 เดือนก็มีตุ่มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ก็เลยใช้ซองเอ็นไซม์ประคบไว้ตอนนอน ต่อเนื่องสองคืน ตุ่มก็หายไป”

ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นอายุ 38 ปี ที่ได้ไปเที่ยวประเทศศรีลังกาและโดนแมลงกัดหลายจุด
“หลังจากนั้นหนี่งสัปดาห์ ได้มาอบเอ็นไซม์ประมาณ 20 นาที ความเจ็บปวดจากการโดนแมลงกัดก็หายไป ผิวก็นุ่มลื่นขึ้นด้วย”

“ที่ฝ่าเท้ามีตาปลาลึกมาก เคยไปผ่าตัดมาแล้ว แต่หลังจากที่ได้เดินบนเอ็นไซม์รำข้าวประมาณ 20 นาทีเป็นเวลา 2 วัน ตาปลาก็หายไป”

ผู้ชายชาวญี่ปุ่นอายุ 80 ปีที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องท้องผูก “มาอบเอ็นไซม์รำข้าวเพียงวันเดียวก็สามารถถ่ายเป็นปกติได้ทุกวัน นอกจากนี้ช่วงระหว่างไหล่กับข้อศอกที่มีแผลที่เกิดจากโรคติดต่อทางผิวหนังก็หายไป”

ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินไม่ชัด “หลังจากที่มาใช้บริการเพียงหนึ่งครั้ง เสียงที่ดังเหมือนมีอากาศออกจากหูก็หายไป”

สุนัขอายุ 14 ปีที่หลังจากเข้ารับผ่าตัดเนื่องจากอาการไตวาย อาการก็แย่ลง และไม่สามารถเดินได้ “หลังจากที่ใช้ซองเอ็นไซม์รำข้าวที่บ้าน เพียงสองวันก็กลับมาเดินไปเหมือนเดิม และถึงแม้ว่าจะไม่ได้อบเอ็นไซม์รำข้าวเลย 1 ปี ก็ยังคงแข็งเเรง”

ผู้ชายญี่ปุ่นอายุ 27 ปีที่เพิ่งมาประเทศไทยเพียงไม่นาน และมีอาการไอไม่หยุด “หลังจากมาใช้บริการ 1 ครั้ง อาการไออย่างหนักตอนกลางดึก และอาการไอที่มีเสมหะออกมาด้วยก็หายไป”

“เวลาที่สุนัขดื่มน้ำแล้วน้ำเข้าไปขังอยู่บริเวณรอยพับใต้คาง ทำให้เกิดเชื้อรา สุนัขก็เริ่มเกาจนเกิดแผล เคยพาไปหาสัตวแพทย์นานถึง 10 ปี ก็ไม่หาย แต่หลังจากที่ให้ใช้ซองเอ็นไซม์ ราคา 100 บาท ประคบไว้ 1 คืนก็อาการดีขึ้น”(จากเจ้าของหมาปั๊กที่มีเหนียงหย่อนยาน)

จากการแจกเอ็นไซม์แพ็คให้แก่คนที่มีสภาพร่างกายแย่ลงอย่างต่อเนื่องจาก PM 2.5 “หลังจากใช้งานได้ 2-3วัน พอไม่ได้ใช้ก็จะเริ่มเจ็บคอ และน้ำมูกไหลไม่หยุด ทำให้รู้ถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ซองเอ็นไซม์รำข้าว”

“สวัสดีค่ะ ฉันอาจจะตอบกลับมาช้าไปหน่อยนะคะ หลังจากนี้ต่อไปฉันก็อยากจะใช้ต่อไปเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น !! คุณน้ำพุอายุ 30 ปี ผู้หญิง อาการในอดีต การเปลี่ยนแปลง และปัจจุบัน ↓อาการหนาวสั่นง่าย : ไม่ได้เป็นคนอุณภูมิร่างกายต่ำ แต่แม้กระทั่งอยู่ที่กรุงเทพฯ เองก็ยังต้องใส่กางเกงเลคกิ้งนอน ไม่อย่างนั้นขาจะเย็นจนหนาว แต่หลังจากได้มาอบเอ็นไซม์รำข้าวแล้ว ขาอุ่นขึ้นสามารถใส่กางเกงขาสั้นนอนได้แล้ว

ท้องผูก : ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าเหมือนท้องผูก แล้วไปอบเอ็นไซม์รำข้าว วันถัดมาก็สามารถถ่ายท้องได้เลย

ผื่นที่มือ : มีผื่นขึ้นที่มือโดยไม่ทราบสาเหตุมาประมาณ 4 เดือน ไปโรงพยาบาลก็ได้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์และวิตามินมา แต่พยายามที่จะไม่ใช้ยา (เฉพาะในเวลาที่ทนไม่ไหวก็จะใช้ยาช่วย) หลังจากที่ได้อบเอ็นไซม์อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลากว่า 2 เดือน รู้สึกตัวอีกทีผื่นก็หายไปแล้ว

ไหล่ตึง : หลังจากที่ได้อบเอ็นไซม์ก็รู้สึกสบายตัว ด้วยความที่ส่วนใหญ่ทำงานออฟฟิศทำให้ท่านั่งไม่ดี เลยส่งผลให้เป็นเรื้อรัง
การเตรียมเป็นคุณแม่ : อยากฟื้นฟูสภาพร่างกาย ฟื้นฟูอาการป่วยที่กล่าวมาข้างบน ให้ดีขึ้น

เวลาเป็นหวัด : ตอนรู้สึกว่าเป็นหวัด แล้วอบเอ็นไซม์ ก็จะหายภายใน 1 คืน (เคยมีประสบการณ์หลายครั้ง) ไม่ใช่ยา Pabron แต่หายเพราะเอ็นไซม์รำข้าว!!

(ที่บ่อเอ็นไซม์รำข้าวในเชียงราย) ผู้หญิงชาวญี่ปุ่น อายุ 33 เป็นมะเร็งปากมดลูก (ลามไปถึงต่อมน้ำเหลือง) ใบหน้าบวมมาก นิ้วมือก็บวมเช่นกัน เธอจึงใช้ชีวิตอยู่ในห้องอบเอ็นไซม์เป็นเวลา10 วัน นอนบนเอ็นไซม์รำข้าว หลังจากครบ 10 วัน เซลล์มะเร็งก็ลดลง

ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นอายุ70 ปี เป็นมะเร็งเต้านมมากว่า 15 ปี หลังจากที่ได้อบเอ็นไซม์รำข้าวอาการเจ็บก็บรรเทาลง ใช้บริการทุกวันเป็นระยะเวลากว่าครึ่งปี (มีช่วงที่หยุดใช้บริการประมาณ 3 เดือนเนื่องจากกลับญี่ปุ่น) หนองเริ่มออกมา อาการเริ่มดีขึ้น (หลังจากนั้นเธอเดินทางกลับญี่ปุ่น)

พอเริ่มเป็นหวัด แล้วไปเข้าอบเอ็นไซม์รำข้าว หวัดก็หาย หากเป็นหวัดนานๆ ก็อาจจะกลายเป็นโรคหอบหืดได้ แต่ฉันก็สามารถใช้ชีวิตโดยไม่มีอาการเหล่านั้น นอกจากนี้ความระบมที่เกิดจากการฝืนออกกำลังกายก็หายไปด้วย พลังของเอ็นไซม์ช่วยฉันไว้ได้มากจริงๆ

จากลูกค้า ได้มีโอกาสลองใช้ซองเอ็นไซม์ที่ได้มาเมื่อวาน โดยปกติแล้วจะใช้แบบซองแกว่งในน้ำ แต่ครั้งนี้ใช้วิธีผสมลงไปในน้ำประมาณ 30 กรัม อาจจะทำให้อ่างอาบน้ำสกปรกและสร้างความลำบากในการระบายน้ำ พอลองใส่ไปในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ก็รู้สึกว่าด้านล่างของอ่างอาบน้ำร้อนขึ้น และหากแช่น้ำร้อนผิวอาจจะแดงและมีอาการคัน แต่พอใส่เอ็นไซม์รำข้าวลงไปแล้ว ผิวกลายเป็นสีออกชมพู และไม่มีอาการคัน

ผู้ชายชาวญี่ปุ่นอายุ 52 ปีที่ต้องไปทำงานหลายประเทศ และต้องเดินทางเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดอาการปวดเอว หลังจากได้มาอบเอ็นไซม์รำข้าว อาการเจ็บปวดก็หายไป

พนักงานในครัวคนไทยของ Sala Bran อายุ 40 ปี หลังจากที่มาเริ่มงานได้ 2 เดือน โรควุ้นในตาเสื่อมก็หายเป็นปลิดทิ้ง

ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นอายุ 50 ปีที่เคยผ่าตัดตา การผ่าตัดในครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ทุกครั้งที่มาอบเอ็นไซม์จะนำเอ็นไซม์รำข้าวไปโปะที่ตาด้วย หลังจากนั้นการมองเห็นก็ชัดเจนขึ้น

จากลูกค้าที่มาใช้บริการทุกๆ สุดสัปดาห์ติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายเดือน มีอาการการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ได้เข้ารับการเช็คเมื่ออาทิตย์ก่อน ผลออกมาว่าค่าการทำงานกลับมาเป็นปกติ จนคุณหมอตกใจและถามว่าไปทำอะไรมา

จากลูกค้าท่านที่เข้าอบเอ็นไซม์แทบจะทุกวันบอกว่า ค่าไขมันที่เป็นกลางว่ากันว่าต้องอยู่ไม่เกิน150 แต่ของฉันเคยขึ้นสูงสุดที่ 500 แต่หลังจากมาใช้บริการตอนนี้ลงมาอยู่ที่ 134

หลังจากที่ตื่นนอนแล้วเริ่มเดินเพียงเล็กน้อยจะมีอาการเหน็บชาตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าไปจนถึงหลัง จากที่ตื่นนอนแล้วเริ่มเดินเพียงเล็กน้อยจะมีอาการเหน็บชาตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าไปจนถึงฝ่าเท้า ได้ไปทำกายภาพที่โรงพยาบาล10 ครั้งเพราะถูกวินิจฉัยว่ามีอาการอวัยวะเคลื่อน เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 35,000 บาทก็ไม่หาย ได้ไปใช้บริการอบเอ็นไซม์รำข้าว และเข้าใช้บริการอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จนครั้งที่ 4 อาการเหน็บชาก็หาย(ผู้ชายอายุ 62 ปี)

คุณ N ที่ตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อนมีอาการบาดเจ็บที่ข้อศอกส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เริ่มลำบากในการยกของขึ้นหรือลง แต่หลังจากที่มาอบเอนไซม์รำข้าวอาทิตย์ละ 1ครั้ง จนได้ 5 ครั้งอาการ เหล่านั้นก็หายไป

เรื่องราวต่อจากนี้จะเล่าถึงสุนัขอายุ 14 ปี ของคุณ N ซึ่งเป็นโรคผิวหนังมาตั้งแต่เมื่อ 8 ปีก่อน จนขนเริ่มร่วงเรื่อยๆ โดยจะเล่าผ่านสมุดบันทึกของภรรยาคุณ N

สุนัข “ดัมโกะ” ขนร่วงมากว่า 8 ปี และเคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพเป็นเวลานาน ระหว่างนั้นก็ได้มีการส่งตัวอย่างผิวหนังและเลือดไปตรวจหาสาเหตุที่อเมริกาด้วย แต่ผลที่ออกมากลับพบว่า ไม่ทราบสาเหตุ เขาได้ยินเรื่องราวการรักษาด้วยเอ็นไซม์รำข้าว จึงลองมาดูโดยเริ่มจากนำซองเอ็นไซม์ไปประคบบริเวณที่มีปัญหา เช้าวันถัดมาส่วนที่เคยเป็นสีแดงก็กลายเป็นสีขาว ทำให้รู้ว่าเอ็นไซม์มีประสิทธิภาพในเรื่องแก้อาการอักเสบด้วย และหลังจากประคบบริเวณแผลก็มีขนอ่อนๆ เริ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน หลังจากที่มาใช้บริการที่นี่ครบ 1 เดือน ปริมาณขนเพิ่มขึ้น หลังจากใช้บริการ 10 วันก็เริ่มสังเกตได้ว่าเอ็นไซม์มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการอักเสบได้จนเหมือนหมาลาบาดอ (หัวเราะ) เอ็นไซม์รำข้าว ซองละ 120 บาทเท่านี้ก็รักษาหายแล้ว ดีจริงๆ เลย ขอบคุณครับ เวลาได้เห็นสุนัขที่กำลังมีความสุข เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย ขอโทษที่เขียนยาวไปหน่อย สิ่งที่อยากบอกจริงๆ ก็คือ คุณสมบัติการรักษาโรคของเอ็นไซม์ช่างน่ายกย่องจริงๆ และอยากขอบคุณที่รักษาสุนัขให้ในราคาที่ถูกด้วย ถ้าคุณมีสุนัขที่อาการเดียวกันลองพามาที่นี่ได้

เพื่อที่จะลดอาการคันที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ทำให้ขนตั้งแต่หลัง ช่วงท่อนล่างไปจนถึงก้นร่วงไปหมด ได้ยินมาว่าใช้วิธีการนำซองเอ็นไซม์ไปประคบบริเวณที่มีปัญหาประมาณวันละ 30 นาที ถ้าประคบวันละ 5 ชั่วโมงอาการก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สุนัขอาจจะไม่ชอบสักเท่าไหร่

(ต้นตำรับ เอ็นไซม์รำข้าว จาก เมืองมิกิ จังหวัดเฮียวโกะ) เอ็นไซม์รำข้าว สามารถใช้กับสุนัขและแมวได้ด้วยเช่นกัน ว่ากันว่าสัตว์มีความสามารถในการรักษาตัวเองได้ดีกว่าคน บ่อเอ็นไซม์ต้นแบบ ของอาจารย์ทาเคะอุจิที่ญี่ปุ่น ก็มีบ่อแยกเฉพาะของสัตว์เลี้ยงด้วย

พลังของเอ็นไซม์ซึ่งหลั่งไหลมาจากจุลินทรีย์ที่เกิดจากการหมักรำข้าวนั้นจะช่วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้แผ่ขยายเพิ่มปริมาณต่อไปด้วย การฝังตัวหรือการอบเอ็นไซม์รำข้าวอย่างสมบูรณ์นั้นจะทำให้เกิดการบรรสานกับจุลินทรีย์ 100 ล้านล้านภายในร่างกายของเรา ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นทั้งจากผิวกายภายนอกและภายในก็จะเริ่มอุ่นขึ้นจากกระดูก ซึ่งความร้อนที่ตามปกติแล้วจะไม่เคยสัมผัส (แตกต่างจากการแช่น้ำพุร้อน) เป็นลักษณะคล้ายไมโครเวฟธรรมชาติที่สร้างความร้อนขึ้นได้เองจากภายในร่างกายของเรา

สิบนาทีหลังจากอบเอ็นไซม์ จะมีการขับเหงื่อออกมาจากทั่วร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น สารพิษที่สะสมอยู่ระดับลึกภายในเป็นเวลาหลายปีจะถูกขับออกจากร่างกาย สุขภาพจากภายในได้รับการปรับปรุงที่ระดับพื้นฐาน ซึ่งเป็นผลให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นและพลังในการรักษาตัวเองเพิ่มมากขึ้นด้วย

แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การอบทรายร้อนเป็นแอ่งซึ่งร้อนขึ้นจากความร้อนจากโลก (เช่นภูเขาไฟ) แต่การอบเอ็นไซม์รำข้าวใช้พลังของจุลินทรีย์ในการสร้างความร้อน

บ่อเอ็นไซม์สามารถปลดปล่อยความร้อนจาก 56-64 องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่อง เชื้อโรคและสารพิษต่างๆ เช่นเหงื่อของมนุษย์จะถูกย่อยสลายโดยความร้อนนี้

ขนาดของบ่อเอ็นไซม์เป็นขนาดซึ่งใหญ่พอที่จะรองรับการอบของผู้ใหญ่ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน แต่โดยส่วนใหญ่จะมีการจองรอบละ 1 หรือ 2 คน จึงไม่มีใครเข้าไปอบในบริเวณเดียวกันกับคนที่อบก่อนหน้าไปแล้ว คนที่เข้ามาอบใหม่ในรอบถัดไป จะมีการขุดในบริเวณที่ไม่ซ้ำกับจุดเดิม กระบวนการหมักและการย่อยสลายของเอ็นไซม์จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นบ่ออบเอ็นไซม์จึงอยู่ในสภาพที่สะอาดเสมอ

ขออภัยที่จำเป็นต้องงดเว้นการอบในช่วงมีรอบเดือน

ทางเรามีบริการผ้าเช็ดตัว เสื้อคลุมสำหรับผู้หญิง กางเกงขาสั้นสำหรับผู้ชาย หมวกคลุมผม นอกจากนี้ยังมีไดร์เป่าผม คอตตอนบัด ไว้บริการด้วย
*ไม่มีผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางค์ โปรดนำติดตัวมาด้วยหากจำเป็น

การอบตัวในบ่อเอ็นไซม์ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หากในแต่ละรอบจะเผื่อเวลาไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยรวมเวลาการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าไว้แล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้บริการ

ใช่ เรามีพนักงานผู้หญิงไว้บริการ

ไม่สามารถใช้ได้ อุณหภูมิจะคงอยู่ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียส โดยความร้อนจากการกระตุ้นจุลินทรีย์เท่านั้น (สามารถเพิ่มได้ถึง 70 องศาเซลเซียส แต่เราจะควบคุมไว้ที่ระดับอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพราะหากอุณหภูมิสูงเกินไปเอ็นไซม์จะสลายตัว

ประมาณการว่ามีจุลินทรีย์ประมาณ 10 พันล้านตัวต่อรำข้าวหนึ่งกรัม (จากบ่ออบ) จำนวนจุลินทรีย์มหาศาลราวดวงดาวในจักรวาลที่เกิดจากการหมักรำข้าวจะกลายเป็นเหมือนพลังงานที่บีบอัดตัวก่อให้เกิดความร้อนขึ้นจากการเสียดทาน

กลิ่นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่เราได้รับคำชมที่เกิดจากความประทับใจของผู้ใช้บริการโดยส่วนใหญ่ว่าเอ็นไซม์รำข้าวมี “กลิ่นหอมหวาน” ราวกับ “โรงงานขนมปัง” “โรงเหล้าสาเก” “โรงเบียร์มิโซะ” “ช็อกโกแลต” และ “น้ำผึ้ง”

ได้ แต่ไม่แนะนำ แม้กินเข้าไปจะไม่เป็นอันตรายก็ตาม แต่ก็มีบางคนลองกินเอ็นไซม์รำข้าวที่เกาะติดตามร่างกายของตัวเอง

แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การอบทรายร้อนเป็นแอ่งซึ่งร้อนขึ้นจากความร้อนจากโลก (เช่นภูเขาไฟ) แต่การอบเอ็นไซม์รำข้าวใช้พลังของจุลินทรีย์ในการสร้างความร้อน

ขอแนะนำว่า 2 ถึง 4 ครั้งต่อเดือน เพื่อการตอบสนองที่ดีในการดูแลสุขภาพ ควรอบสัปดาห์ละครั้งเพิ่มความอุ่นภายในของร่างกายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภูมิคุ้มกัน แนะนำให้ลองสัมผัสประสบการณ์สักครั้งหนึ่ง แล้วลองถามร่างกายของคุณเองว่าต้องการอบเอ็นไซม์บ่อยแค่ไหน

เคยมีผู้อบประมาณ 30 นาที มากถึง 6 ครั้งในหนึ่งวัน แต่ไม่แนะนำเนื่องจากจะทำให้ร่างกายถูกกระตุ้นมากเกินไป คุณจะรู้สึกเหนื่อยมาก แนะนำว่าไม่ควรเกิน 3 รอบในหนึ่งวัน

การอบในช่วงตั้งครรภ์จะดีมาก ช่วยในการคลอดและการฟื้นตัวหลังการคลอดบุตร เคยมีการให้บริการอบเอ็นไซม์ที่โรงพยาบาลสูติ – นรีเวชในญี่ปุ่น

คุณสามารถให้เด็กทุกวัยอบเอ็นไซม์ได้ หรือสามารถมานั่งเล่นแทนการอบเอ็นไซม์รำข้าวก็ได้เช่นกัน

เมื่อคุณอบเสร็จ กรุณาลุกขึ้นช้าๆ หากลุกขึ้นทันทีอาจจะทำให้มีอาการหน้ามืดได้เนื่องจากคุณนอนอยู่ในท่าเดิมประมาณ 20 นาที แนะนำให้เคลื่อนไหวร่างกายช้าๆ ก่อน นอกจากนั้นเหงื่ออาจจะยังออกไม่หยุดแม้ว่าจะขึ้นจากบ่อเอ็นไซม์มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ตาม เนื่องจากร่างกายถูกกระตุ้นภายในจึงขอให้พักผ่อนจนรู้สึกเป็นปกติดีเสียก่อน

เอ็นไซม์ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร น้ำหนักของคุณอาจลดลงถึง 500 กรัมในการอบแต่ละครั้ง

ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย สปาเอ็นไซม์รำข้าวที่นั่นดำเนินการโดยบริษัท DATA & COMMUNIQUE EXPRESS ส่วน Sala Bran ในกรุงเทพฯ ดำเนินการโดยบริษัท K.PORT แต่ทั้งสองสาขา ดำเนินการภายใต้การควบคุมในการบริหารจัดการกลุ่มเดียวกัน และมีกำหนดการเปิดให้บริการที่เชียงใหม่ในปี 2564

ในเดือนกันยายนปี พ.ศ. 2558 เราเริ่มเปิดบริการอบเอ็นไซม์รำข้าวที่เชียงราย ส่วน Sala Bran กรุงเทพฯ เปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 สำหรับ Sala Bran โคราชเปิดในปี พ.ศ.2566

เป็นงานที่สนุกและมีคุณประโยชน์ต่อผู้คน และทำให้มีสุขภาพดี ถ้าสนใจสามารถติดต่อได้โดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของเอ็นไซม์รำข้าว